RCD ประเภทใดที่ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม "คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่รุนแรง"

กระแสชั่วคราวที่มีความถี่สูง (High-frequency transient currents)

แรงดันไฟกระชากของระบบ
กระแสฟ้าผ่าที่ปล่อยลงดิน (รูปที่ 1) ทำให้เกิดไฟกระชากในวงจรที่ประกอบด้วยตัวนำเฟส+นิวทรัลที่ด้านหนึ่งและอีกด้านหนึ่ง
แรงดันไฟกระชากที่จุด Common ที่เกิดฝั่งอินพุตไปยังอาคารทำให้เกิดกระแสไฟที่จุด Common
เนื่องจากค่า capacitance ที่จุด common ของสายเคเบิลและของตัวกรอง EMC บนโหลด
กระแสไฟนี้จะถูด "มองเห็น" โดย RCD และอาจนำไปสู่การ trip หรือตัดวงจร หากไม่ได้รับคุ้มกันขั้นสูง (super immunised, SI)
ไฟกระชากประเภทอื่นใช้หลักการเดียวกันเพื่อสร้างกระแสที่จุด common ที่ RCD เห็น

แรงดันไฟกระชากทึ่จุด common และกระแสชั่วขณะที่เกี่ยวข้อง (Common mode voltage surges and associated transient currents)
เครือข่ายไฟฟ้าอาจต้องเจอกับแรงดันไฟกระชากชั่วคราวที่เกิดจาก:

• ฟ้าผ่า: แรงดันไฟกระชากเหล่านี้แสดงถึงค่าปกติด้วยรูปคลื่นแรงดันไฟฟ้า 1.2/50 μs (รูปที่ 2) กระแสที่เหนี่ยวนำในสายไฟ โดยแรงดันไฟกระชากเหล่านี้
  แสดงด้วยรูปคลื่น 8/20 μs ที่ทำให้เป็นมาตรฐาน (รูปที่ 4)
• การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในสภาพการทำงานในระบบ (ความผิดปกติ ฟิวส์ขาด สวิตชิ่งโหลดผิดปกติ การทำงานของสวิตช์ MV ฯลฯ)
• การเปิดตัวเก็บประจุ (Capacitors switching) จะสร้างกระแสไหลเข้าชั่วคราว ( transient inrush current ) คล้ายกับที่แสดงในรูปคลื่น (รูปที่ 3)
• การปิด inductive components เช่น power supply transformers หรือหม้อแปลงจ่ายไฟที่ใช้สำหรับให้แสงสว่าง (ฮาโลเจนหรือฟลูออเรสเซนต์) ทำให้เกิดแรงดันไฟกระชากสั้นๆ ซึ่งความถี่สามารถเข้าถึงได้ถึง 10 MHz

หมายเหตุ
เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในวิธีการต่อสายดินของ IT ​​(Isolate neutral)กระแสไฟรั่วชั่วคราวจะถูกสร้างขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในส่วนที่เกี่ยวกับโลก ปรากฏการณ์ที่คล้ายกันอาจเกิดขึ้นได้เมื่อ UPS สลับไปมาระหว่างแหล่งจ่ายหลักและแหล่งจ่ายแบตเตอรี่ ในขณะที่ Neutral ของ output จะถูกตัดการเชื่อมต่อจากระบบ GND ชั่วครู่(จากนั้นเชื่อมต่อใหม่ด้วยเฟส Lag เล็กน้อย)

Released for:Schneider Electric Thailand